บัลลังก์ราชัน True Blood (รีไรท์)
เด็กหนุ่มลูกกำพร้า ถูกเลี้ยงดูโดยมนุษย์เมื่อเติบใหญ่ทำให้เขารู้ว่าเขาคนที่เลี้ยงดูตกอยู่ในอันตราย ดินแดนลึกลับ่จุดกำเนิดของเขา เผ่าพันธุ์เดียวกับเขาอาศัยอยู่ ช่างเป็นความลับที่น่าค้นหา
ผู้เข้าชมรวม
9,557
ผู้เข้าชมเดือนนี้
23
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
กลางลานของหมู่บ้าน ชายฉกรรจ์หลายคนยืนรวมกลุ่มอยู่ที่นั่น สายตาทุกคู่มองไปยังทางเข้าหมู่บ้าน บนป้อมสูง ยามที่เฝ้าส่งสัญญาณบางอย่างลงมา ไม่นาน ก็เห็นม้าสีขาวและน้ำตาล ควบอย่างรวดเร็วตรงมายังหมู่บ้าน ชายเหล่านั้นต่างกระจายตัวให้รถม้าวิ่งเข้ามาจอด ทั้งหมดยกปืนขึ้นเล็งไปยังรถม้าโดยทันที ชายผู้บังคับรถม้า ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ
“ได้โปรดช่วยนายหญิงของข้าด้วย..” ร่างนั้นตะกายลงจากที่นั่งบังคับม้า ชายวัยกลางคนที่เต็มไปด้วยริ้วรอยการถูกทำร้ายจากสัตว์ มือที่เปื้อนเลือด ชีไปที่รถม้าซึ่งมีร่องรอยการถูกจู่โจมกัดตะกุยจนไม้บางส่วนแว่งวิ่น..ชายนั้นเมื่อพูดจบก็สำลักเลือดตัวเอง ตาเหลือกค้างสิ้นใจไปต่อหน้าชาวบ้านเหล่านั้น..
ทั้งหมดลดปืนลงเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังออกมาจากรถม้า..เจ้าบ้านตรงเข้าไปเปิดประตูทันที ภายในรถม้า..เละเทะไปหมดทั้งสัมภาระและแม้แต่คนโดยสารที่เหลือชีวิตอยู่เพียงคนเดียวนั้นก็ยับเยินเหมือนผ่านการต่อสู้ที่เหี้ยมโหด ร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยขบกัดของสัตว์ สีหน้าเจ็บปวดระคนตื่นตระหนกของเธอ ทำให้ทุกคนถึงกับตะลึง..เพราะไม่แต่เฉพาะร่างที่ปราศจากชีวิตของสตรีคนหนึ่ง อีกสตรีนั้นนางตั้งครรภ์ และตอนนี้ นางดิ้นรนเพื่อมีชีวิตรอดพอจะให้กำเนิดบุตรของเธอ..
“ไปตาม นังขี้เมาทิสต์ มาที่นี่ ถ้ามันยังเมาอยู่ ทำยังไงก็ได้ให้มันสร่าง..ข้ามีงานด่วนให้มันทำ” เจ้าบ้านตะโกนสั่งคนสนิท ซึ่งวิ่งออกไปตามคำสั่งอย่างรวดเร็ว ส่วนตัวเขาและคนที่เหลือ ต่างก็ช่วยอุ้มร่างของสตรีท้องแก่ซึ่งหายใจรวยริน แต่นางก็ยังมีสติดีอยู่ ทั้งที่ร่างของนางมีบาดแผลใหญ่เลือดสีคล้ำยังคงใหลริน
บ้านพักคนเดินทางถูกดัดแปลงเป็นที่สำหรับคนบาดเจ็บ..บ้านหลังนี้มีข้าวของสำหรับรักษาคนเจ็บเบื้องต้น รวมทั้งของใช้บางอย่าง เมื่อครั้งเมียของเขาให้กำเนิดบุตร เหล่าอาสาคุ้มครองหมู่บ้านเคยชินกับเหตุการณ์แบบนี้จึงหยิบจับของที่จำเป็นต้องใช้มาเตรียมไว้รอ คนที่เชี่ยวชาญในเรื่องการคลอดบุตร
“ท่าน..ช่วยลูกของข้า..โปรดช่วยเขาให้รอด” มือเรียวงามซึ่งเปรอะไปด้วยเลือด คว้าขายแขนเสื้อของเจ้าบ้านวัยกลางคน ดวงตางดงามสีเทาสุกใส บัดนี้เอ่อคลอด้วยหยาดน้ำตา..เธอเป็นสตรีที่สวยมากๆ เจ้าบ้านกุมมือหญิงนั้นไว้
“แม่หญิง..ข้ายินดีช่วยเท่าที่สามารถท่านเข้มแข็งเอาไว้เถิดนะ..” เจ้าบ้านปลอบใบหน้าที่บิดเบี้ยว เธอเจ็บปวดไปทั้งร่าง อาการดิ้นรนของทารกในครรภ์ที่ต้องการออกมาดูโลกทำให้เธอพยายามอดทน..เพื่อให้กำเนิด..ทายาทคนเดียวของตระกูลที่เหลืออยู่หากสวรรค์มีเมตตา เขาหรือเธอจะเป็นผู้สืบสายเลือดที่ชอบธรรมโดยแท้จริง
“เอามือสกปรกของพวกแกออกไปจากตัวข้า..” เสียงตะโกนสบถปากจนแทบอยากอุดหูตามออกมาเป็นชุด ไม่มีใครสนใจวาจาหยาบคายของ หญิงขี้เมาเนื้อตัวเหม็นคลุ้งกลิ่นเหล้าอยู่ตลอด เจ้าบ้านละจากหญิงบาดเจ็บ เพื่อมาจัดการกับลูกบ้านที่ไม่น่าคบหาคนนี้
“ทิสต์ หุบปากของเจ้าทีเถอะ..” เจ้าบ้านบอกกับเธอ ซึ่งก็ได้ผล ร่างอ้วนหุบปากโดยทันที แต่ก็ยังไม่วายส่งสายตาเกรียวกราดไปยัง ชายสองคนที่ยืนทำหน้าเครียดผู้ไปขุดแซะนางออกมาจากถังเบียร
“ท่านเจ้าบ้าน..ท่านอยู่ที่นี่ด้วย..ขออภัยให้แก่ข้าด้วยที่เสียงดังไปหน่อย”
“ไม่หน่อยล่ะ..เจ้าไปล้างมือให้สะอาดก่อน แล้วห้ามเอะอะอะไรอีก ไม่อย่างนั้นข้าจะจับเจ้าขังไว้สักสามวัน..เจ้าคงรู้ดีนะ” เจ้าบ้านสั่ง
“ทิสต์..ไม่กล้าหรอกท่านเจ้าบ้าน..อ้าวนั่นใครกันหรือท่าน” หญิงร่างอ้วนชะโงกหน้าไปดูด้านหลังของท่านเจ้าบ้าน ซึ่งมีสุภาพสตรีผิวผ่องนอนอยู่บนผ้าใบเนื้อหยาบ อาการที่มองเห็นก็รู้ได้ทันทีว่านางกำลังจะให้กำเนิดบุตร
“คนเดินทาง..เจ้าอย่าเพิ่งถามมากเลยรีบไปล้างเนื้อตัวให้สะอาดแล้วมาช่วยนางที..” เจ้าบ้านบอก ทิสต์กระวีกระวาดไปล้างมืออ้วนใหญ่จนถึงข้อศอก ไม่นานนางก็มาคุกเข่าอยู่ระหว่างขาของสตรีผู้นั้น ชายฉกรรจ์ในห้องต่างก็เดินออกไปรออยู่ข้างนอกอย่างรู้งาน..เหลือเพียงหญิงชาวบ้านสองคนซึ่งถูกตามตัวมาก่อนหน้าที่ทิสต์จะมาถึงไม่นานเข้ามาคอยเป็นผู้ช่วยสตรีร่างบอบบาง เพื่อช่วยทารกที่กำลังจะถือกำเนิดในวันพระจันทร์สีเลือด..
เสียงกู่ร้องโหยหวนของฝูงหมาป่าดังอยู่ไกลออกไป เสียงมันดังอยู่รอบๆบริเวณที่ตั้งของหมู่บ้าน คล้ายกำลังรอจังหวะที่จะเข้าจู่โจม เจ้าบ้านมองไปท่ามกลางความสลัวราง คืนนี้พระจันทร์ส่องสว่างและมันกำลังจะเปลี่ยนเป็นสีแดง..เจ้าบ้านมองดวงจันทร์ที่ดูน่าสะพรึงกลัวเหลือเกิน..
ตำนานที่เล่าขานเกี่ยวกับมนุษย์หมาป่าในคืนเดือนเพ็ญ เจ้าบ้านได้ยินมาตั้งแต่เด็ก แต่จนเขาล่วงเข้าวัยกลางคนเข้านี่ยังไม่เคยเห็นว่า ตำนานที่เล่าจะมีมูลความจริง มันอาจเป็นกุสโลบายที่ควบคุมเด็กๆไม่ให้ไปวิ่งเล่นในป่ายามค่ำคืนมากกว่า สิ่งที่ระแวดระวังยามถึงฤดูผสมพันธุ์ของเหล่าหมาป่าต่างหาก ที่เขาต้องคอยระวังสัตว์เลี้ยงภายในหมู่บ้าน..ไม่ใช่มนุษย์หมาป่าที่ว่า..แต่ทว่าคืนนี้ เขารู้สึกหนาวเยือกในอก..สีของพระจันทร์ทำให้เขาฉุกคิดเรื่องตำนานทั้งที่เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องเหลวใหล
เสียงกรีดร้องดังออกมาจากที่พักคนเดินทาง สลับกับเสียงปลอบโยนของทิซต์ หญิงขี้เมาประจำหมู่บ้านทำให้เขาละสายตาจากดวงจันทร์ซึ่งเริ่มเป็นสีแดงเข้มขึ้นเรื่อยๆ ลูกบ้านคนอื่นๆต่างจับกลุ่มพูดคุยกันเบาๆ เสียงร้องด้วยความทุกข์ทรมานของสตรีแปลกหน้า ดังถี่กระชั้นขึ้นเรื่อยๆ ช่างใช้เวลานานเหลือเกิน หากหญิงนี้เป็นภรรยาของเขา เขาก็คงรู้สึกกระวนกระวายมากกว่านี้ แต่เมื่อเธอเป็นหญิงแปลกหน้าเขาก็เพียงแค่รู้สึกสงสาร..นางได้รับบาดเจ็บทั้งยังต้องคลอดลูก ทั้งหมดต้องไว้ใจให้ทิซต์ แม้นางจะขี้เมา แต่นางก็เป็นคนเดียวที่เป็นหมอตำแยของหมู่บ้าน เด็กหลายคนที่ถือกำเนิด ก็ฝีมือนางทั้งนั้น..ไม่มีใครรู้ว่าทิซต์มาจากไหน..
เมื่อ 7 ปีก่อน ทิซต์เดินทางมากับสามีของนาง อาบัส ซึ่งเป็นลูกชายของยายเฒ่านิคกี้ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสมุนไพรของหมู่บ้าน ระยะเวลาที่ทิซต์อยู่ที่นี่เธอเป็นคนดีคนหนึ่งคอยช่วยเหลือคนเจ็บคนป่วยร่วมกับยายเฒ่านิคกี้ จนเมื่อสองปีก่อนยายเฒ่านิคกี้ได้ล้มเจ็บและเสียชีวิตไป ทิซต์จึงสืบทอดเป็นผู้ดูแลรักษาคนเจ็บคนป่วยของหมู่บ้าน นางปรุงยาต่างๆ มากมายช่วยให้คนทั้งหมู่บ้านแข็งแรง และไม่เจ็บป่วยง่ายๆเหมือนเมื่อก่อน สิ่งที่ทำให้ทิซต์เปลี่ยนไปก็คือ
หกเดือนก่อนอาบัสได้ออกไปล่าสัตว์และหายสาบสูญไป คนที่ร่วมล่าสัตว์ในครั้งนั้นเก็บเสื้อเปื้อนเลือดที่ขาดวิ่นราวถูกกระชากจากสัตว์ ทิซต์เสียใจจนถึงกับคลุ้มคลั่งเพราะนางรักสามีของนางมาก เมื่อสามีจากไปกระทันหัน..จุดนั้นเองที่เปลี่ยนแปลงทิซต์ผู้อ่อนโยนและใจดี เป็นผู้หญิงขี้เมา..เอาแต่พร่ำเพ้อถึงสามีที่จากไป..ยิ่งเธอเมาเท่าไหร่ก็ยิ่งหยาบคายมากเท่านั้น..ไม่มีใครถือสาหญิงขี้เมาคนนี้..มีเพียงเจ้าบ้านที่ทิซต์ยอมฟัง
เสียงหมาป่าโหยหวนใกล้เข้ามาทุกที พร้อมทั้งเสียงกรีดร้องด้วยความทุกข์ทรมานของหญิงกำลังจะคลอดบุตค..เจ้าบ้านมองไปรอบๆ ที่จู่ๆทุกอย่างรอบๆก็นิ่งสนิท..มันเงียบเกินไป เหล่าชายหนุ่มก็จับสังเกตุได้เช่นกัน เจ้าบ้านทำมือเป็นสัญญาณ ซ้ายขวา ทุกคนกระจายตัวไปตามจุดทันที
ในความเยือกเย็นของอากาศยามดึกสงัด เจ้าบ้านเพ่งมองไปในแนวป่า..ยอดสนไหวเอนโยนตัวรับกันเป็นทอดๆ เสียงหิมะร่วงพรูเบาๆ ในความมืด ใกล้เข้ามาทุกที เจ้าบ้านรู้สึกขนลุกชัน มันอะไรกันหรือ..
“นั่นมันอะไรกัน..ข้าไม่เคยเห็น...” เท็ดเอ่ยขึ้นแผ่วเบาพลางกระชับปืนในมือแน่นขึ้น ตาจับจ้องไปยังยอดสนที่ไหวเอนราวกับลมพัดไล่กันเป็นคลื่นใกล้เข้ามาเนิบช้า
เสียงร้องครวญครางยังดังแว่วออกมา เป็นสิ่งเดียวที่ทำลายความเงียบสงัดในค่ำคืนนี้..สัตว์เลี้ยงในคอกเหมือนจะจับสัญญาณอันตรายที่กำลังจะมาถึง พวกมันต่างก็ส่งเสียงกันเซ่งแซ่ วิ่งไปซุกตัวรวมกันอยู่มุมหนึ่งของคอกตัวสั่นเทา..จิตใจของผู้เฝ้ารอนั้นเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ ทันใดนั้นยอดต้นสนก็หยุดนิ่งห่างจากหมู่บ้านเพียงแค่ห้าสิบเมตร
สายลมที่พัดหวีดหวิวหอบเอาความหนาวเย็นเข้าโอบล้อม..ไม่มีใครทันสังเกตว่าบัดนี้พระจันทร์นั้นเป็นสีแดงราวกับเลือด เสียงกรีดร้องดังออกมาจากภายในเพิงที่พัก พร้อมกับเสียงแผดจ้าของทารก..มันเป็นเสียงแห่งความยินดียิ่งจนทำให้ผู้คนที่เฝ้าระวังอยู่ด้านนอกถึงกับยิ้มออกมา บางคนถึงกับถอนใจจนลืมตัวไปชั่วขณะ..สิ่งที่เฝ้ารออยู่ภายนอกยังคงสงบนิ่ง..ไม่มีการเคลื่อนไหว เจ้าบ้านสั่งความแก่เท็ดให้เฝ้าระวัง ส่วนตัวเขาเดินเข้าไปภายในเพิงที่พัก
สตรีผู้ได้รับบาดเจ็บนอนหายใจรวยรินมีผ้าห่มเนื้อหยาบคลุมท่อนล่าง ข้างกายของนางในห่อผ้าเนื้อนุ่มคือทารกน้อยหน้าตาจิ้มลิ้ม..ดวงตาดำกลมใหญ่สีน้ำตาลแวววาวราวกับลูกแก้ว เจ้าบ้านเข้าไปคุกเข่าข้างๆหญิงนั้นเมื่อเธอส่งสายตาวิงวอน เจ้าบ้านก้มหน้าลงใกล้ๆกับเธอ เมื่อเสียงแหบพร่าแผ่วเบาพยายามที่จะพูดบางสิ่งกับเขา
“ท่านผู้ใจดี..ข้ามีเรื่องขอร้องต่อท่าน”
“แม่หญิง..ท่านมีสิ่งใดโปรดบอกข้าเถิด” เจ้าบ้านมองดวงหน้าละมุนที่ซีดขาวราวกับกระดาษ ริมฝีปากแห้งผากของนางมีริ้วรอยห้อเลือด..นางคงทุกข์ทรมานจากการคลอดบุตรเป็นอย่างยิ่ง และที่สะท้อนใจ เขาเห็นเงามัจุราชกำลังไขว่คว้าวิญญาณของนาง ใบหน้าที่ถูกเช็ดพอให้ดูสะอาดงดงามราวกับสตรีผู้สูงศักดิ์ในเมืองหลวง น่าเสียดายที่นางต้องเอาชีวิตมาทิ่งที่นี่ หมู่บ้านเล็กๆ ที่ห่างไกลเมืองเหลือเกิน
“บุตรชายของข้า..ไคล์ โปรดเรียกเขาชื่อนั้น..ข้าฝากเขาด้วย..” เสียงนางขาดเป็นห้วงๆ พยายามที่จะกล่าวฝาก บุตรชายที่เพิ่งถือกำเนิด
“ได้แม่หญิง..ข้าจะเรียกเขาตามที่ท่านต้องการ” เจ้าบ้านบอก นางยิ้มสีหน้าคล้ายสมหวัง นางค่อยๆถอดสร้อยทองคำขาว ห้อยเหรียญตราอะไรสักอย่างวงกลมประดับอัญมณีสีเหลืองล้อแสงไฟระยับ ด้านหลังมีสัญลักษณ์แปลกๆที่เขาอธิบายไม่ถูก ว่าจะเป็นสี่เหลี่ยม หกเหลี่ยม หรือ สามเหลี่ยม อีกทั้งอักขระที่เขาอ่านไม่ออก
“โปรดมอบมันให้เขา บอกเขา...นำสิ่งนี้ติดตัวไปที่ ผาทิวสน รับปากข้า..ดูแลเขาแทนข้าด้วย..ท่านผู้มีเมตตา” เจ้าบ้านรับคำ นางกล่าวขอบคุณเขาเสียงแผ่วโหยสีหน้าสมหวังฉายชัด มือของนางสั่นระริกเมื่อเปิดเปลือยทรวงอกอวบอิ่มให้ทารกน้อยดื่มกินโดยมี ทิซต์คอยช่วยอยู่ใกล้ๆ
อาการที่นางกระทำ..เพื่อให้ทารกได้จดจำสายใยแห่งความผูกพันระหว่างแม่ลูกมันเป็นน้ำนมครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของทารกน้อย ไคล์..ที่จะได้ดื่มกินน้ำนมจากอกมารดาผู้ให้กำเนิด..เจ้าบ้านเบือนหน้าหนี มันเป็นภาพที่เขารู้สึกสะเทือนใจเหลือที่จะกล่าว เมื่อทารกกินอิ่มและหลับ ผู้เป็นมารดานั้นก็หลับ หากเป็นการหลับชั่วนิรันดร์ นางจะไม่มีวันตื่นขึ้นมาเพื่อให้นมกับบุตรของนางได้อีกต่อไป..
ผลงานอื่นๆ ของ อัฌฌา ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ อัฌฌา
ความคิดเห็น